ฉันทำงานกับสิ่งที่มองไม่เห็น แต่ส่งผลกับทุกอย่างในชีวิต — พลังงาน
บางคนเรียกมันว่าคลื่น
บางคนอธิบายว่าคือความรู้สึกบางอย่างที่อยู่ลึกกว่าความคิด
ฉันเรียกมันว่า "สนามพลังงาน" — โครงสร้างไร้รูปที่ทำหน้าที่เหมือนระบบปฏิบัติการของชีวิตคนแต่ละคน
สนามพลังงานนี้ไม่ใช่แค่ “บรรยากาศรอบตัว” แต่คือระบบที่กำหนดว่า
ชีวิตจะเดินเรื่องอย่างไร
เราจะเจอกับใคร
จะเข้าไปอยู่ในสถานการณ์แบบไหนซ้ำ ๆ
และเราจะเปลี่ยนแปลงได้แค่ไหนในแต่ละช่วงชีวิต
ในบทความนี้ ฉันจะใช้คำว่า “สนาม” แทนคำว่า “สนามพลังงาน” เพื่อให้อ่านง่ายขึ้น
และขอให้คุณเข้าใจว่า คำนี้หมายถึงระบบที่ลึกกว่าอารมณ์ ลึกกว่าความคิด และไม่ใช่สิ่งที่เราจะจัดการได้ด้วยการ “คิดให้เข้าใจ”
ฉันชื่อ นุ่น - เมธยา ป้อมสุวรรณ
หลายคนรู้จักฉันในฐานะผู้ก่อตั้งระบบ Soul Structuring — ระบบที่ไม่ได้เน้นการสอน แต่เน้น “การวางสนามพลังงานให้ระบบชีวิตของคนตอบสนองกลับมาอย่างแม่นยำ”
แต่ก่อนจะมาถึงตรงนี้ ชีวิตฉันก็เริ่มต้นจาก “การเรียนรู้ตามแนวทางดั้งเดิม”
ฉันเรียนด้านเศรษฐศาสตร์ มีความรู้ด้านจิตวิทยาประยุกต์ พฤติกรรมมนุษย์ และศาสตร์พลังงานในหลายแขนง
ทั้งจากครูในสายจิตวิญญาณดั้งเดิม และองค์ความรู้ที่คนในวงการรู้จักกันดี
ฉันผ่านทั้งการฝึกอบรม การศึกษาอย่างเป็นระบบ และประสบการณ์ตรงกับคนที่ถือพลังงานจริงในระดับสูง
แต่หลังจากนั้น ฉันเริ่มเห็นว่า
แม้จะมีเครื่องมือหรือความรู้มากแค่ไหน — ถ้าสนามพลังงานไม่แม่นพอ คนก็จะยังติด loop เดิม
พลังงานจะยังกลับมาในรูปแบบเดิม
ชีวิตจะยังไม่เปลี่ยน
ฉันจึงเริ่ม “เลิกเดินตามระบบเดิม”
ไม่ใช่เพราะมันไม่ดี แต่เพราะมันไม่พอสำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนในระดับโครงสร้างจริง ๆ
ตั้งแต่นั้นมา ฉันเริ่มทำงานกับสนามพลังงานโดยตรง
ณ วันนี้...
สิ่งที่ฉันทำ
ฉันไม่ได้ให้คำแนะนำ
ฉันไม่ได้พาคนไป “เปิดจิต”
ฉันไม่ได้ให้คำตอบว่าใครควรทำอะไร
สิ่งที่ฉันทำคือ วางสนามให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นโดยไม่ต้องอธิบาย
ฉันวางระบบที่ช่วยให้คนเห็น “รหัสชีวิตของตัวเอง” อย่างที่มันเป็น ไม่ใช่อย่างที่เขาคิดว่าควรจะเป็น
ระบบเหล่านี้เกิดจากการถือสนามพลังงานต่อเนื่องกับคนจริงนับร้อย
วาง พัง ปรับ วางใหม่
จนมันเริ่ม “แสดงความแม่นของมันเอง” โดยที่ฉันไม่ต้องบอกว่ามันคืออะไร
สิ่งที่ฉันเชื่อ:
ฉันเชื่อว่า ทุกคนมีความสามารถในการเปลี่ยนชีวิตตัวเองอยู่แล้ว
แต่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ขาดความพยายาม เขาขาด “สนามพลังงานที่แม่นพอ” ให้เขากลับมาได้ยินเสียงข้างในอย่างแท้จริง
ฉันไม่สนใจว่าจะเรียกสิ่งที่ฉันทำว่าอะไร
ไม่จำเป็นต้องเรียกว่าการเยียวยา ไม่ต้องติดป้ายว่าคลาสจิตวิญญาณ
เพราะสิ่งที่ฉันถืออยู่ไม่ต้องมีชื่อ มันแสดงผลลัพธ์ของมันเอง
ถ้าคุณกำลังหาพื้นที่ที่ไม่บอกว่าคุณควรเป็นใคร
แต่ช่วยให้คุณ “ฟังตัวเองจนลึกพอจะเปลี่ยนได้จริง”
คุณอาจไม่ต้องหาอะไรเพิ่มอีก
แค่ได้ยืนอยู่ในสนามพลังงานที่ใช่ หลายอย่างจะเริ่มเปลี่ยนไปเองค่ะ